วันนี้ โอทูอี เราจะพาทุกท่านไปรู้จัก ไม้ก๊อก ซึ่งส่วนใหญ่เราจะรู้จัก ในการนำมาทำเป็นจุกไวน์ ซึ่งก็ยังสงสัยอยู่กันจนทุกวันนี้ ว่า “ทำไมต้องเป็นไม้ก๊อก” …
ไม้ก๊อก ตามที่เข้าใจกันว่ามันคือต้นไม้ชนิดหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ไม้ก๊อก คือเปลือกของไม้โอ๊ก ที่ต้องอาศัยระยะเวลา อย่างน้อย 20 ปี ต้นโอ๊กที่ให้ไม้ก๊อกมีอายุยืนยาวกว่า 300-400 ปี วิธีการเก็บเกี่ยวไม้ก๊อก คือ การลอกเปลือก ออกมาโดยไม่ได้ ทำความเสียหาย ให้กับลำต้น เปลือกของต้นโอ๊ก หรือ ไม้ก๊อกนี้ มีคุณสมบัติ เบา ทนไฟ ไม่ดูดซึม และ ยืดหยุ่นมาก ถ้าหากเปลือกไม้นี้ไม่ถูกลอกออกมา จะมีความวหนา ถึง 25 เซนติเมตร ซึ่งจะช่วย ป้องกันต้นไม้จากความร้อน ความเย็น และไฟป่า แต่ถ้าเปลือกถูกลอกออกมาต้นโอ๊กจะค่อย ๆ สร้าง เปลือกขึ้นมาใหม่ และจะมีการลอกเปือกไม้ใน ทุก ๆ 9 ปี ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ ที่ได้มาจากไม้ก๊อก จึงไม่ต้องโค่นต้นไม้เลย
55 % การผลิตไม้ก๊อกมาจาก ประเทศโปรตุเกส 30 % จากสเปน 15 % จาก แอลจีเรีย ฝรั่งเศส อิตาลี โมร็อคโก และ ตูนีเซีย
ไม้ก๊อก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นผลผลิตที่ไม่ต้องทำลายธรรมชาติ ต้นโอ๊กที่ยืนต้นนานหลายปีเป็น ทิวทัศน์ที่งดงามแถบชนบท ให้ร่มเงาและอาหารแก่ฝูงสัตว์ บรรเทาความร้อนระอุในฤดูร้อน นกที่เสี่ยงต่อการสูญพันธ์ ต้องอาศัยต้นโอ๊คในการดำรงงชีวิต ไม้ก๊อกยังช่วนดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปัญหาของโลกร้อน
ไม้ก๊อก เป็นไม้สารพัดประโยขน์ ชาวโรมัน และ ชาวกรีก นำไม้ก๊อก มาทำเป็น ทุ่นสำหรับตาข่าย จับปลา และสวมรองเท้าที่ทำจากไม้ก๊อก และนำมาทำจุกไวน์ และแชมเปญ ตั้งแต่ ศตวรรคที่ 17 ไวน์ที่มีอายุมากกว่า100 กว่าปี แต่ ไวน์ยังมีรสชาติดี จุกไม้ก๊อก จึงถือว่าเป็น “จุกขวดที่ดีที่สุด” ไม้ก๊อก ยังถูกพัฒนานำมาใช้กับหลากหลาย อุตสาหกรรม ไม่ว่า จะป็น อุตสาหกรรม รถยนต์ กีฬา แฟชั่น รองเท้ากระเป๋า หรือแม้แต่แผงกันความร้อนที่ใช้ในยานอวกาศของนาซ่า นอกจากนี้ไม้ก๊อก ยังมีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ดูดซับเสียง นุ่ม และมีคุณสมบัติที่ทนทาน จึงนำมาใช้ ในการตกแต่ง ผนังและพื้น
ไม้ก๊อกจึงเป็น ผลิตผลจากธรรมชาติ ที่ยั่งยืนและไม่มีวันหมด เป็นนวัตกรรมที่ไม่มีเทคโนโลยีไหนลอกเลียนแบบได้ และยังพัฒนามาเป็นวัสดุที่ใช้ในวงการสถาปนิก และนักออกแบบ ที่ต้องการ ความสวยงาม โดดเด่นและเป็น เอกลักษณ์
#O2ESupply #ผู้เชียวชาญด้านวัสดุก่อสร้าง
สอบถามเพิ่มเติม 02-719-7885